Life is all around.

Posts Tagged ‘Shopping

image_preview

วันนี้มาขอระบายหน่อย ใครไม่อยากอ่านก็ไม่เป็นไรนะ เพราะเจ้าของบล๊อกกำลังอารมณ์ขุ่นๆๆ จากการซื้อของทางอินเตอร์เน็ต แล้วเจอพวกที่ชอบฉวยโอกาสบางกลุ่ม เฮ้อ…. จริงๆ ไม่ได้เครียดปานนั้นหรอก แต่อยากจะเขียนเอาไว้เผื่อคนที่เข้ามาอ่านจะได้รู้ไว้เป็นบทเรียนมากกว่า

เรื่องมีอยู่ว่า เราต้องซื้อหนังสือออนไลน์หน่ะ เพราะแถวเมืองที่อยู่มันไม่มีขาย แล้วหนังสือที่ว่ามันก็หายากเหลือเกิน ปกติเราจะซื้อหนังสือผ่าน Amazon แต่เผอิญหนังสือที่ขายจาก Amazon ราคาสูงกว่าที่เว็บ Alibris ถึง 2 เท่า… เอาน่าเว็บนี้ก็มีชื่อเสียงเหมือนกัน รับประกันได้ เลยตกลงซื้อหนังสือจากคนๆ หนึ่ง ไม่เอ่ยนามละกัน ตามแหล่งที่อยู่ระบุว่าพำนักอยู่ที่เมือง Pennsylvania ในอเมริกานี่แหล่ะ โอเคเลย ใกล้ๆ เพราะสั่งไม่กี่วันก็คงได้หนังสือ

สั่งหนังสือเสร็จสรรพ บัตรเครดิตโดนหักเงินเรียบร้อย หนังสือระบุว่าถูกส่งมาแล้ว เราก็นั่งรอนอนรอครบ 5 วัน ไปเช็คหนังสือที่ออฟฟิสที่อพาร์ตเม้นต์ทุกวัน เพราะหนังสือมันจะใหญ่กว่าช่องใส่จดหมายที่ทางอพาต์เม้นต์จัดให้ เลยต้องไปสอบถามที่ออฟฟิสเอง แต่ทำไมหนังสือไม่มาซักทีนะ เพราะในเว็บระบุว่าปกติหนังสือจะถูกส่งแบบ UPS Ground แบบมาตราฐานถ้าไม่ระบุเป็นอย่างอื่น และควรต้องถึงอย่างน้อย 7-14 วัน อึม…มันแปลกๆ นะ

เราก็เช็คอีเมลล์ก็เห็นสถานะของหนังสือระบุว่า shipped เอ๊ะ…แล้วทำไมไม่ได้รับหว่า ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ของอพาต์เมนต์ ห้องพัก ชื่อถนน รหัสไปรษณีย์ทุกอย่างก็ถูกต้องเรียบร้อย เพราะซื้อของมาตั้งเยอะแยะไม่มีทางเขียนที่อยู่ตัวเองผิดแน่นอน แต่ด้วยความที่ตัวเองประมาทและซื่อบื้อเล็กน้อย และไม่มีลิงค์ของ Tracking No. ในอีเมลล์ ก็คิดว่าหนังสือคงถูกส่งแบบ UPS Ground ธรรมดาที่ไม่สามารถ Track ได้ว่าหนังสืออยู่ที่ไหน หลังจากนั้นก็ส่งอีเมลล์หาคนขาย…ไม่ตอบกลับแฮ่ะ ผ่านไปเกือบอาทิตย์ ส่งอีเมลล์ไปใหม่…ก็ไม่มีการตอบกลับเหมือนเดิม เอ๊ะ…ทำไงดีน้าถึงจะรู้ว่าหนังสืออยู่ไหน ก็เลยเข้าไปที่เว็บ Alibris อีกครั้งพอดู status การส่งของ อ้าวมี Tracking No. ด้วยเหรอ แล้วทำไมส่งแบบ FedEx หล่ะ…ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

ที่ต๊กใจ เห้ย…ทำไมส่งมาจาก New Delhi ประเทศอินเดียฟร่ะ…โดนอ้ายพวกแขกหลอก ไหนบอกบ้านแกอยู่เมกา..เปลี่ยนสัญชาติเร็วจริง ไอพวกบ้า (ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ..อารมณ์พาไป 555) ทีนี้ทำไงดี เพราะดูจาก Tracking No. เค้าระบุว่าหนังสือถูกส่งกลับไปที่ศูนย์ FedEx ในเมืองใกล้ๆ กับเมืองที่อยู่ เพราะเมืองที่อยู่ไม่มีศูนย์ FedEx แต่ที่เค้าไม่ส่งเพราะเค้าระบุว่าที่อยู่ของผู้รับไม่ถูกต้อง อ้าว…ไหงเป็นงี้หล่ะ ก็ที่อยู่ให้ถูกต้องทุกอย่างหนิ ทำไมหนังสือถูกตีกลับ

หลังจากนั้นก็โทร.หา FedEx เพื่อถามว่าหนังสืออยู่ที่ไหน เพราะศูนย์ FedEx มันมีหลายที่ หลังจากได้ที่อยู่เสร็จสรรพ ก็รีบตรงดิ่งไปทันที เจ้าหน้าที่บอกว่าหนังสือส่งกลับไป FedEx Center แล้ว เค้าบอกว่าที่เพกเกจของคุณไม่สามารถส่งได้เพราะที่อยู่ระบุไม่ถูกต้อง หลังจากนั้นเราจะเก็บเพกเกจของคุณไว้ 5 วัน ภายหลังจาก 5 วัน เราจะส่งไปเพกเกจคุณไปที่ FedEx Center ตอนแรกเราก็งง…อ้าวมันยังมี FedEx Center อีกเหรอ แล้วมันอยู่ที่ไหนเนี้ย…จะได้ไปเอาหนังสือ คุยไปคุยมาก็คือเค้าส่งกลับคืนผู้ส่ง อ้าว…เวรกรรม ป่านนี้ใครคนนั้นที่ประเทศอินเดียคงได้ทั้งเงินและหนังสือเราไปแล้วแหล่ะ ว่าสิทำไมอีเมลล์ไม่ยอมตอบ

เราก็ถามเจ้าหน้าที่นะว่าทำไมที่อยู่ที่ผิดและให้เค้าลองเปรียบเทียบกับที่อยู่ที่เราให้กับคนขายหนังสือ เค้าบอกว่าผู้ส่งไม่ได้ระบุหมายเลขอพาต์เม้นต์ ทำให้ไม่สามารถส่งได้เนื่องจากทางพนักงานที่อพาต์เม้นต์ไม่สามารถเซ็นต์รับของได้ ดังนั้นจึงกลายเป็นที่อยู่ไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่บอกว่าทุกวันมีเหตุการณ์แบบนี้บ่อย และแนะนำให้ติดต่อกับทางคนขายโดยตรง เพราะแค่จ่ายค่าส่งใหม่ก็คงได้ของแล้วแหล่ะ เราคิดว่าปกติเวลาส่งของก็จะ Copy & Paste ที่อยู่ของผู้รับทั้งนั้นแหล่ะ เค้าไม่ได้พิมพ์เองกันหรอก และบางคนเค้ายังส่งเมลล์มายืนยันที่อยู่ อึม…คนแขกคนนี้มันช่างลูกเล่นแพรวพราวเสียจริง

เพื่อนบางคนบอกว่า อันนี้อาจจะเป็นยุทธวิธีการทำธุรกิจแบบขี้โกงก็ได้ เพราะเค้ารู้ว่าถ้าของส่งไม่ถึงผู้รับ (โดนแกล้งเขียนให้ที่อยู่ขาดตกบกพร่องอะไรบางอย่าง) ของที่สั่งไปก็ส่งตีกลับมาหาตัวเอง และกลายเป็นว่าผู้รับให้ที่อยู่ผิด สรุปว่าคนขายได้ทั้งเงินได้ทั้งของคืน เออ…ตั้งแต่ซื้อของออนไลน์มาก็เจอพวกแขกนี่แหล่ะขี้โกงสุดๆ ครั้นจะไปติดต่อเอาหนังสือคืนเราคงไม่ทำหรอก เพราะคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ของคืน คาดว่าส่งเงินค่าส่งไปก็คงไม่ได้หนังสือเหมือนเดิม อีกอย่างไม่ค่อยอยากจะเสวนากับคนขี้โกง จริงๆ ค่าเสียหายก็ไม่เยอะมากหรอก ก็คิดว่าเป็นการซื้อความรู้ใหม่และทำบุญให้ขอทานไปละกัน….เชอะ

จบข่าว

วันนี้แนะนำเว็บไซต์สำหรับซื้อของ handmade ซึ่งมีตั้งแต่พวกงานศิลปะทั้งหลาย ของตกแต่งบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า อุปกรณ์ประทินผิว เครื่องประดับ เยอะแยะมากมายไปหมด ใครสนใจลองเข้าไปดูที่ http://www.etsy.com/

ช่วงนี้กำลังสนใจสบู่อยู่เพราะว่าเวลาใช้สบู่ก้อน สบู่ที่ซื้อตาม Walmart หรือร้านค้าทั่วไป แม้กระทั่งพวกของดีมียี่ห้อขึ้นมาหน่อยเช่น Bath&Body Work หรือ Victoria Secret ก็เอาไม่อยู่ผิวลอกเป็นขุยแม้ว่าเป็นช่วงหน้าร้อนก็ตาม

มีอยู่วันนึงได้มีโอกาสไปเดินช้อปร้านขายวิตามิน เอ…เค้ามีสบู่น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ยี่ห้อ Kiss My Face – Pure Olive Oil Soap จริงๆ เอาไว้ใช้ล้างหน้านะ แต่พอใช้แล้วรู้สึกหน้านุ่มดี ว่าแล้วก็ใช้สบู่ล้างหน้าไปฟอกตัวซะเลย เผื่อผิวจะได้มีสุขภาพดีขึ้นบ้าง และแล้วก็เอาสบู่เหลวที่มีอยู่ไปใช้ล้างมือ

หากใครไม่รู้ว่าสบู่ handmade หน่ะสวยมากอีกทั้งน่าใช้และน่ากินอีกต่างหาก ลองดูตัวอย่างสบู่พวกนี้ซิ แต่ขอบอกว่าสบู่ handmade นี่ราคาแพงมาก ก้อนนึงตก 4-5 เหรียญ ตอนนี้ก็เลยเริ่มศึกษาวิธีการทำสบู่ด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไปนานๆ แล้วจะได้สบู่อย่างในรูปนี้บ้างหรือเปล่าเน้อ…


สบู่ caffeine จาก DirtySanchez


สบู่ Herb Garden จาก seaspritesoaps


สบู่ Spicy Cinnamon Coffee Cake Bar with Shea Butter จาก BubblesUpByBethieB


สบู่ S’mores จาก savor


สบู่ ICED OATMEAL COOKIE จาก SkinJourney


สบู่ Arabian Nights Slice Glycerin Soap จาก Soapier


สบู่ Cucumber and Watermelon จาก SoapStore


สบู่ Chai Tea Shea Butter Soap จาก dennisanderson

Tags: ,